it's me

วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ฟ้าสวย ทะเลใส ที่มัลดีฟส์เมืองไทย เกาะหลีเป๊ะ

                   ไม่ต้องไปไกลถึงต่างแดนในประเทศไทยเราเองก็มีทะเลสวยๆ ที่น่าหลงใหลชวนให้ไปเยือนอยู่มากมายหลายแห่ง ฉบับนี้คู่หูเดินทางขอพาท่านผู้อ่านทุกท่านมุ่งหน้าสู่ภาคใต้มายังจังหวัด สตูล จังหวัดที่มีเกาะน้อยใหญ่ที่สวยงามขึ้นชื่ออยู่หลายเกาะ แต่ที่ขึ้นชื่อและเป็นที่รู้จักกันดีก็ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา มีเกาะน้อยใหญ่มากถึง 51 เกาะ อยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลประมาณ 40 กิโลเมตร และห่างจากกรุงเทพมหานครกว่า 900 กิโลเมตร เรียกว่ากว่าจะถึงก็ต้องใช้เวลากันเป็นวันเลยทีเดียว เพื่อแลกกับความสวยงามที่น่าประทับใจ วันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านมาเที่ยว “เกาะหลีเป๊ะ” หรือที่เค้าเรียกกันว่า “มัลดีฟส์เมืองไทย” มาทำความรู้จักกับเกาะน้อยใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ บริเวณนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนฤดูกาลเปิดเกาะจะมาเยือนในกลางเดือนนี้








                    
                     เกาะหลีเป๊ะ หมายถึง เกาะที่ราบเรียบคล้ายกระดาษ ซึ่งมีที่มาจากภาษาท้องถิ่นชาวเล(ชนเผ่าอุรักลาโว้ย)บนเกาะ ซึ่งส่วนใหญ่ทำอาชีพประมง รอบเกาะเต็มไปด้วยปะการังอันสมบูรณ์ มีเวิ้งอ่าวที่สวยงาม หาดทรายขาวละเอียด เป็นศูนย์กลางของความสะดวกสบายมากมายทั้งที่พัก ที่กิน ที่เที่ยวยามค่ำคืนครบครัน บนเกาะเป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้านกลุ่มชาวเลในอดีตที่มีการตั้งชุมชนนานกว่า 100 ปี กิจกรรมที่นิยมบนเกาะหลีเป๊ะ ได้แก่ การดำผิวน้ำ และการดำน้ำลึก เพราะเพียงแค่ออกจากชายหาดก็สามารถสนุกกับการดำผิวน้ำได้ทันที น้ำใส หาดทรายขาว เวลาน้ำลงสามารถเดินเล่นดูปลาการ์ตูนและ ดอกไม้ทะเลได้สบาย เพียงคุณก้มหน้ามองลงไปในน้ำเท่านั้น แต่ควรระวังเวลาเดินอาจจะพลาดเหยียบหอยเม่นได้เพราะค่อนข้างมีเยอะอยู่เคียง คู่กับดอกไม้ทะเลเลยก็ว่าได้ หรือบางทีอาจจะมีปลากระเบนว่ายหลงเข้ามาบ้าง แต่จุดดำน้ำที่ดีที่สุดจะถูกรวมอยู่ในทริปดำน้ำแบบวันเดียวที่ถือว่าเป็นทริ ปยอดนิยม มีการนำชมเกาะต่างๆ ใกล้เคียง รวมถึงการรับประทานอาหารเที่ยงบนชายหาดที่สวยงาม ร้านดำน้ำ และรีสอร์ทต่างๆ จะมีอุปกรณ์ดำน้ำให้เช่า และสามารถจัดเรือให้บริการสำหรับทริปดำน้ำได้ 











                        บนเกาะหลีเป๊ะแห่งนี้จะมีชายหาด อยู่ 3 แห่ง คือ หาดพัทยา(บันดาหยา) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะ เป็นหาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ชายหาดยาวเป็นโค้งเว้ารูปครึ่งวงกลม หาดขาวสะอาดตลอดแนว และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุด เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาก มีความหลากหลายทั้งที่พัก อาหาร และเครื่องดื่ม ต่อมาคือ หาดซันไรส์ ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าเกาะหลีเป๊ะ ร่มรื่นไปด้วยทิวมะพร้าวน้อยใหญ่ที่ขึ้นเรียงรายตลอดแนวหาด สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้สวยงาม มองเห็นหน้าเกาะอาดังได้อย่างดี มีบ้านเรือนชาวเลอาศัยอยู่กระจัดกระจายไม่หนาแน่น และมีรีสอร์ทที่พักริมหาดให้เลือกบริการพอสมควร สุดท้ายคือ หาดซันเซ็ท เป็นหาดที่มีขนาดเล็กที่สุดและมีที่พักอยู่น้อยกว่าหาดอื่นๆ เน้นบรรยากาศความเงียบสงบเป็นส่วนตัว


อุทยานแห่งชาติเขาสก

                 อุทยานแห่งชาติเขาสก ครอบคลุมพื้นที่ป่าดิบชื้นที่ใหญ่ที่สุดของภาคใต้ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ ของผืนป่าและธรรมชาติอันงดงามพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาหินปูนสลับซับซ้อน เมื่อประกอบกับผืนน้ำกว้างใหญ่จากการกั้นเขื่อนรัชชประภาเขาหินบางส่วนได้ กลายเป็นเกาะแก่งกลางห้วงน้ำอันไพศาลเกิดทัศนียภาพตระการตาของเกาะแก่งกลาง ผืนน้ำทิวเขาหินปูนที่มียอดแหลมเรียงรายระเกะระกะ มีแนวหน้าผาสูงชันบางแห่งเป็นแท่งเหมือนหอคอยเมื่อมีสายหมอกลอยเหนือผิวน้ำ เคล้าเคลียทิวเขาและเกาะแก่งเกิดเป็นภาพงดงามเกินบรรยาย เป็นสถานที่ที่เรียกกันว่า "กุ้ยหลินเมืองไทย"ในพื้นที่อุทยาน มีน้ำตก ถ้ำ ธารน้ำ โตรกเขา ที่สวยงามอีกทั้งสัตว์ป่าและพรรณไม้หลายชนิดล้วนน่าชมน่าศึกษาบางชนิดพบได้ ที่นี้เท่านั้นกิจกรรมการท่องเที่ยวที่นี้เป็นการเดินป่าทั้งระยะใกล้และไกล เที่ยวถ้ำน้ำตก ชมทิวทัศน์ ศึกษาพรรณไม้และธรณีวิทยา



การเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติเขาสก

การเดินทางโดยรถยนต์ใช้เส้นทางลงสู่ภาคใต้ผ่านชุมพรมาตามทางหลวงหมายเลข 41ผ่านอำเภอไชยาจนถึงทางแยกที่อำเภอพุนพินเลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 401(สุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า)ผ่านอำเภอบ้านตาขุนถึงกิโลเมตรที่ 109เลี้ยวขวาประมาณ 1.5 กม.ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสกรวมระยะทางจากกรุงเทพฯถึงเขาสกประมาณ 780 กม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ8-10ชั่วโมงจากอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีหรือ อำเภอตะกั่วป่าจังหวัดพังงาใช้ทางหลวงหมายเลข 401ถึงทางแยกเข้าอุทยานตรงหลักกิโลเมตรที่ 109เลี้ยวเข้าไปอีกประมาณ 1.5 กม.ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสก
รถโดยสาร มีรถโดยสารประจำทางหรือรถทัวร์ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข401 คือสายสุราษฎร์ฯ-ภูเก็ต รถตู้ปรับอากาศสายสุราษฎร์ธานี-อุทยานแห่งชาติเขาสก จากตลาดเกษตร 2 เมืองสุราษฎร์ธานี
รถเช่าเหมาคัน มีรถให้เช่าเหมาไปอุทยานแห่งชาติเขาสกจากท่ารถบริเวณหลังสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานีอำเภอพุนพินและจากท่ารถตลาดเกษตร 2 เมืองสุราษฎร์ธานี

คำแนะนำในการท่องเที่ยว 

ช่วงเวลาสำหรับการชมดอกบัวผุดที่อุทยานแห่งชาติเขาสก คือระหว่างเดือนพฤษภาคม-ธันวาคม โดยมีจุดที่พบอยู่หลายจุด ผลัดกันบานหมุนเวียนกันไป เนื่องจากบัวผุดแต่ละดอกเมื่อบานแล้วจะอยู่ได้เพียงประมาณ 7 วัน แล้วก็จะโรยไป


วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

สีสันทะเลสวย

                        ก้าวเข้าสู่เดือนเมษายนเดือนที่ปกติแล้วจะเป็นช่วงที่ร้อนที่สุดของปีก็ว่าได้ แต่ปีนี้แหงนหน้าดูฟ้าดูข่าวทีวีแล้วมีให้แปลกใจกับสภาพอากาศที่เกิดขึ้น…
…มีทั้งฝนตก ทั้งพายุต่าง ๆ ที่หอบเอาเม็ดฝนมาโปรยปรายถึงบ้านเรา สลับกับลมที่พัดความหนาวเย็นมาอย่างที่ไม่เคยมีปรากฏการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน จนให้ใคร ๆ ต่างกันสงสัยว่านี่อยู่ในฤดูกาลไหนกันแน่ ภาคใต้จากปีก่อนที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมมาถึงตอนนี้ก็เจอซ้ำอีกระลอกเห็นภาพข่าวแล้วมีให้อดเป็นห่วงพี่น้องชาวภาคใต้ไม่ได้ ก็ได้แต่หวังว่าภาครัฐและหน่วยงานต่าง ๆ จะหยิบยื่นความช่วยเหลือไปบรรเทาทุกข์ภัยจากธรรมชาติในครั้งนี้ นี่ยังไม่นับสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่นอีก โอย… นี่คงถึงเวลาที่ธรรมชาติค่อย ๆ เอาคืนมนุษย์บ้างแล้วแน่ ๆ แต่จะยังไงซะคนท่องเที่ยวรักการเดินทางก็ยังอยากหาเวลาว่างพักผ่อนไปยังสถานที่สวย ๆ กันอยู่เสมอ และถ้าจะพูดถึงในหน้าร้อนแล้วก็คงไม่มีที่ไหนที่ผู้คนนึกถึงมากไปกว่า “ทะเล” 
angthong 01 สีสันทะเลสวย
…แม้สภาพอากาศจะเป็นใจบ้างไม่เป็นใจบ้างแต่สภาพท้องทะเลบางที่ก็ยังสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อยู่ จะมากขึ้นหน่อยผมว่าก็คงเป็นวินัยที่นักท่องเที่ยวน่าจะให้ความใส่ใจกันมากขึ้น (อันนี้หวังไว้) เพราะเชื่อว่าผลพวงจากธรรมชาติที่เราได้ประสบอยู่ในขณะนี้คนส่วนใหญ่ย่อมระลึกได้แล้วว่าเกิดจากความเปลี่ยนแปลงของโลก ไม่ว่าจะเป็นปรากฏการณ์เอลนีโญ่ หรือจะโลกร้อน ฯลฯ ก็ได้แต่หวังว่าคนคงจะหันมาให้ความสนใจกับการดูแลและรักษาธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น…
phuket 03 สีสันทะเลสวย
…วันนี้ผมเลยขอรวบรวมเอาทะเลงาม วิวทัศนียภาพสวย ๆ จากหลายแห่งในน่านน้ำทะเลไทยไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งอ่าวไทยหรืออันดามัน พอรวบรวมได้มานิดหน่อย(จากที่มีเยอะมาก) เพื่อมาเรียกน้ำย่อยกระตุ้นต่อมการเดินทางให้ใครบางคนอาจอยากออกไปสัมผัสกับบรรยากาศดีดีจากธรรมชาติบ้าง แม้จะต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่แปรปรวนก็ตาม แต่ยังไงแล้วก็ขอให้ร้อนนี้ทุกคนอย่าร้อนมาก จะไปสงกรานต์กลับบ้าน หรือเที่ยวเล่นสาดน้ำก็ให้อยู่ในขอบเขต ลดของเครื่องดื่มมึนเมาเพื่อความปลอดภัยของตัวท่านและผู้อื่น … อย่างน้อยร้อนนี้ก็จะยังได้เป็นหน้าร้อนที่มีความสุขและปลอดภัยตลอดการเดินทางนะครับ…

phi phi 03 สีสันทะเลสวย
“อช.หมู่เกาะพีพี” … ความสวยงามของน้ำทะเลสีครามฟ้าใสและความโด่งดังติดระดับโลกของอ่าวมาหยา ที่ทุกคนอยากเดินทางมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง รวมไปถึงความหรูหราและมีระดับของสถานที่พักรีสอร์ทที่มีอยู่มากมายบนเกาะทั้งจะคึกคักด้วยผู้คนและแสงสี หรือในบรรยากาศเงียบสงบส่วนตัว.. ด้วยบรรยากาศที่หลากหลายนี่เองทำให้ใครต่อใครต่างอยากมาเหยียบผืนทราย ณ ที่แห่งนี้กันทั้งนั้น …

samui 01 สีสันทะเลสวย
“เกาะสมุย” …เกาะที่ใหญ่สุดเป็นอันดับ 3 ของเกาะในประเทศไทย … มีแนวชายหาดที่ขึ้นชื่อในด้านความสวยงามอยู่หลายแห่งด้วยกันครับเช่น หาดเฉวง หาดละไม เป็นต้น ซึ่ง 2 หาดนี้ตั้งอยู่ด้านตะวันออกของเกาะ…

angthong 02 สีสันทะเลสวย
“อช.หมู่เกาะอ่างทอง”…  เกาะวัวตาหลับ หากต้องการจะมาพักค้างคืนที่นี่ต้องติดต่อกับทางอุทยานไว้ก่อนนะครับ บ้านพักก็มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกครับ แล้วแต่ความต้องการของเรา ทิวมะพร้าวสวย ๆ น้ำทะเลใส ๆ ฟ้างาม ๆ ก็ที่นี่แหละครับ…

phuket 01 สีสันทะเลสวย
“ภูเก็ต” …แดนสวรรค์ที่ใคร ๆ ก็ถามหา ไม่ว่าจะทั้งคนไทยหรือชาวต่างประเทศที่อยากถวิลหามาสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งภูเก็ตให้ได้สักครั้ง ไม่ใช่เพียงแค่ทะเลแต่สถาปัตยกรรมเมืองเก่า และรสชาติของอาหารที่เป็นเอกลักษณ์สิ่งเหล่านี้แหละที่ทำให้ภูเก็ตเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวในอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน…

tarutao 01 สีสันทะเลสวย
“อช.หมู่เกาะตะรุเตา” … จากสถานที่กักขังนักโทษครั้งสมัยอดีตกาลสู่เพชรน้ำเอกแห่งอันดามัน ผืนทะเลที่อุดมสมบูรณ์ด้วยเหล่าฝูงปลานานาชนิด และปะการังเจ็ดสีที่ติดอันดับความสวยงาม 1 ใน 5 ของโลก หรือจะเม็ดทรายที่ขาวละเอียดนุ่มราวใครเอาแป้งมาโรยไว้ที่เกาะหลีเป๊ะ น้ำทะเลกระทบแสงแดดปะทะให้เกิดระยิบระยับที่เกาะหินงาม และความสวยงามของโลกใต้น้ำที่เกาะอาดัง-เกาะราวี…

samed 03 สีสันทะเลสวย
” เกาะเสม็ด”  …อ่าวน้อยหน่าแม้จะอยู่ใกล้ท่าเรือของเกาะเสม็ดแต่กลับเป็นหาดที่หลบหลีกหนีความ วุ่นวายแตกต่างจากบรรดาหาดอื่น ๆ ทั่วไปของเกาะ หาดทรายสีขาวนิ่ม ในวันแดดสวยท้องทะเลก็งดงาม หาดเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อนสบาย ๆ ในวันแห่งความสุข…


เรื่อง : ภาพ | ภานุวัฒน์ เอื้อชนานนท์

โรแมนติก“ตรัง” หลงเสน่ห์ทะเลสวย เมืองสงบแห่งอันดามัน

ท้องทะเลตรัง สวยงามไม่แพ้ที่ใดๆ
       ช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน เป็นช่วงเวลาในการท่องเที่ยวท้องทะเลอันดามัน แค่คิดถึงภาพน้ำทะเลใสๆ หาดทรายสีขาว และแสงแดดจัดจ้า ก็ทำให้อยากจะรีบลาพักร้อนแพ็คกระเป๋าไปเที่ยวเสียเดี๋ยวนั้น ส่วนจุดหมายปลายทางก็ไม่ต้องคิดมาก ในเดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรักเช่นนี้ มาเที่ยวเมือง “ตรัง” น่าจะเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง เพราะในช่วงวันวาเลนไทน์ เมืองตรังจะจัดงานใหญ่คือ “งานวิวาห์ใต้สมุทร” ต้นตำรับงานวิวาห์ที่แปลกและเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ปีนี้จัดมาเป็นปีที่ 16 แล้ว คนทั้งเมืองจะมาร่วมเฉลิมฉลองกับคู่บ่าวสาว เมืองตรังในช่วงนี้จึงมีบรรยากาศของความรักอบอวลไปทั่ว
คู่บ่าวสาวชื่นมื่นในงานวิวาห์ใต้สมุทร
       และแม้ไม่ใช่ช่วงวันวาเลนไทน์ เมืองตรังก็ยังเป็นเมืองน่าเที่ยวอยู่เช่นเดิม ตามคำขวัญที่ว่า “เมืองพระยารัษฎา ชาวประชาใจกว้าง หมูย่างรสเลิศ ถิ่นกำเนิดยางพารา เด่นสง่าดอกศรีตรัง ปะการังใต้ทะเล เสน่ห์หาดทรายงาม น้ำตกสวยตระการตา”
      
       ก่อนจะออกทะเลไปชมความสวยงามของผืนน้ำและผืนทราย อยากจะขอพาเที่ยวในเมืองตรังกันก่อน เริ่มกันที่อำเภอกันตังซึ่งเป็นเมืองท่าเก่าแก่สำคัญของจังหวัดตรัง ในอำเภอกันตังมี “พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี๊)” เจ้าเมืองตรังที่ปกครองเมืองใน พ.ศ.2433 ท่านเป็นนักปกครองและนักพัฒนาที่ทันสมัย ได้สร้างคุณประโยชน์นานัปการให้เมืองตรังและประชาชนชาวตรัง ปัจจุบัน บ้านพักเก่าของท่าน หรือจวนเก่าเจ้าเมืองตรัง ในอำเภอกันตัง ซึ่งเป็นเรือนไม้ 2 ชั้น ได้รับการอนุรักษ์ไว้เพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์ ภายในจัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งขนาดเท่าตัวจริงของท่านพระยารัษฎาฯ และมีเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของท่านที่เก็บรักษาไว้โดยทายาทตระกูล ณ ระนอง
หุ่นขี้ผึ้งของพระยารัษฎาฯ ภายในพิพิธภัณฑ์
       พระยารัษฎาฯ ยังได้ชื่อว่าเป็น “บิดาแห่งยางพารา” เพราะท่านเป็นผู้ส่งเสริมการปลูกยางพาราจนกลายเป็นพืชเศรษฐกิจอันดับ 1 ของภาคใต้ ปัจจุบันมียางพาราต้นหนึ่งอยู่บริเวณริมถนนก่อนเข้าสู่ตัวเมืองอำเภอกันตัง ซึ่งถือว่าเป็น “ต้นยางพาราต้นแรกของประเทศไทย” หรือถ้าจะกล่าวจริงๆ ก็คือเป็นต้นยางในสวนยางพารารุ่นแรก ซึ่งทางเทศบาลเมืองกันตังได้ดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี
พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎา ในอำเภอกันตัง
       นอกจากต้นยางพาราแล้ว น้อยคนที่จะรู้ว่าพระยารัษฎาฯ ยังเป็นผู้ที่นำต้นศรีตรังซึ่งต่อมาได้กลายเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดตรังมาปลูกในจังหวัดตรังอีกด้วย โดยท่านได้นำศรีตรังต้นแรกมาปลูกในจังหวัดตรังในปี 2444 หลังจากที่ท่านปลูกยางพาราต้นแรกในเมืองตรังเพียง 2 ปี โดยดอกศรีตรังจะออกดอกสีม่วงอ่อนหวานมาให้ชมในทุกๆ ช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.
      
       ในอำเภอกันตังยังมีอีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจ คือ “สถานีรถไฟกันตัง” ซึ่งเป็นสถานีรถไฟสุดท้ายของเส้นทางสายอันดามัน เปิดใช้เป็นทางการเมื่อปี 2456 หรือในสมัยรัชกาลที่ 6 แต่เดิมจากตัวสถานีจะมีรางรถไฟไปสิ้นสุดถึงท่าเทียบเรือกันตัง ส่งเสริมให้เมืองกันตังในสมัยก่อนเป็นเมืองเศรษฐกิจ มีการค้าขายสินค้ากับต่างประเทศอย่างคึกคัก ปัจจุบันทางรถไฟสิ้นสุดเพียงตัวอาคารสถานี
ต้นยางพาราต้นแรกในอำเภอกันตัง
       ตัวสถานีรถไฟกันตังเป็นเรือนไม้ชั้นเดียวทรงปั้นหยา ทาสีเหลืองมัสตาร์ดสลับสีน้ำตาลดูสดใส ตัวอาคารและชานชาลาด้านหน้าของอาคารมีมุขยื่น มีการตกแต่งประดับมุมเสาด้วยลวดลายไม้ฉลุกลมกลืนกับตัวอาคาร ปีหน้านี้สถานีรถไฟกันตังก็จะมีอายุครบ 100 ปี แต่ก็ยังรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิมของสิ่งก่อสร้างสมัยรัชกาลที่ 6 ไว้ได้เป็นอย่างดี และได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของจังหวัดตรังตั้งแต่ปี 2539 ด้วยความคลาสสิคของบรรยากาศสถานีรถไฟกันตัง คู่แต่งงานชาวตรังจึงมักมาถ่ายรูปแต่งงานกันที่นี่ด้วย
บรรยากาศคลาสสิคของสถานีรถไฟกันตัง
       ส่วนในอำเภอเมืองตรังนั้นถือว่าเป็นเมืองที่มีบรรยากาศชิลล์ๆ สบายๆ ไม่รีบร้อน แถมยังมีอาหารอร่อยหลากหลายที่ไม่ควรพลาดชิมตามแบบฉบับของคนตรังที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองของ “คนช่างกิน” โดยจะเริ่มต้นมื้อเช้าด้วยติ่มซำหลากหลายชนิดที่ทางร้านจะนำมาวางเรียงรายไว้เต็มโต๊ะ อยากกินอันไหนก็เลือกได้ตามใจ คิดเงินไปตามจำนวนที่กิน กินแกล้มชาหรือกาแฟร้อนๆ ยามเช้า หรือบางคนอาจชอบกิน “หมูย่างเมืองตรัง” หนังกรอบรสชาติหวานหอมกลมกล่อมคู่กับกาแฟรสเข้มก็อร่อยไปอีกแบบ และอีกหนึ่งอาหารเอกลักษณ์ของตรังก็คือ “เค้กเมืองตรัง” ที่มีเอกลักษณ์ตรงที่จะมีรูและไม่ใช้ครีมตกแต่งหน้าเค้ก ขนมเค้กมีหลายรสให้เลือกชิม เช่น รสกาแฟ รสใบเตย รสเนย รสส้ม เป็นต้น
หมูย่างเมืองตรัง อาหารขึ้นชื่อของเมืองตรัง
       เมืองตรังแม้จะเป็นเมืองเงียบๆ แต่ก็มีเสน่ห์ของเมืองเก่า ตอนเช้าๆ หากไปเดินเล่นแถวๆ ตลาดเทศบาลก็จะได้เห็นวิถีชีวิตการกินอยู่ของคนเมืองตรัง อีกทั้งในบริเวณตลาดยังมีตึกแถวเก่าแก่อยู่ริมถนน และมีรถตุ๊กตุ๊กหัวกบ รถสามล้อเล็กของเมืองตรังที่มีเอกลักษณ์ตรงส่วนหัวของรถที่มีลักษณะคล้ายหัวกบไว้รับส่งผู้โดยสารในระยะใกล้ๆ เป็นภาพที่น่าชมในสายตาของนักท่องเที่ยว
      
       ส่วนในตอนค่ำๆ ของวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ในเมืองตรังจะสร้างความคึกคักด้วยถนนคนเดินสถานีรถไฟตรัง หรือ Chan-Chala Night Market ที่ชาวตรังจะมาจำหน่ายสินค้าแฮนด์เมด อาหารพื้นเมือง อาหารท้องถิ่น ฯลฯ กันบริเวณหน้าสถานีรถไฟตรัง อย่าลืมไปชิมโรตีอร่อยๆ ที่มีให้เลือกหลายร้านบริเวณสถานีรถไฟด้วย
ติ่มซำเต็มโต๊ะเป็นอาหารเช้าของคนเมืองตรัง
       เที่ยวในเมืองกันไปแล้ว ได้เวลาออกทะเลกันเสียที เมืองตรังนั้นมีท้องทะเลและเกาะแก่งต่างๆ ที่สวยงามไม่แพ้ภูเก็ตหรือกระบี่ แต่ด้วยความนิยมที่น้อยกว่า ทำให้ค่าโรงแรมที่พักที่ตรังนั้นมีราคาสบายกระเป๋ามากกว่า ดังนั้นใครที่รักทะเลและหาดทรายขาว ชอบบรรยากาศสงบๆ และอยากเหลือเงินไว้กินไว้เที่ยวให้มากขึ้น ลองมาเที่ยวตรังดูน่าจะดี โดยการเดินทางไปเกาะต่างๆ ในทะเลตรังนั้นมักมีจุดเริ่มต้นที่ท่าเทียบเรือปากเมง ในอำเภอสิเกา
ตึกแถวเก่าและตุ๊กตุ๊กหัวกบ พบเห็นได้ในเมืองตรัง
       ในท้องทะเลตรังนี้มีเกาะขึ้นชื่ออยู่หลายเกาะด้วยกัน ล้วนแล้วแต่มีความงามไม่แพ้ที่อื่น เกาะขึ้นชื่อของทะเลตรังก็คือ “เกาะกระดาน” ที่ว่ากันว่าเป็นเกาะที่สวยที่สุดในจังหวัดตรัง เกาะกระดานมีหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใส มองเห็นแนวปะการังน้ำตื้นและปลามากมาย นักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำที่ชายหาดดำน้ำชมปะการังน้ำตื้นได้ด้วย บนเกาะมีรีสอร์ทให้บริการอยู่หลายแห่งให้เลือกพัก
ถนนคนเดินบริเวณสถานีรถไฟตรัง
       “เกาะมุก” อีกหนึ่งเกาะที่มีนักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนกันมาก เกาะแห่งนี้มีลักษณะที่แตกต่างกันในแต่ละฝั่ง ด้านตะวันออกเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่ยังคงวิถีของชาวเกาะ ด้านทิศตะวันตกเป็นโขดหินหน้าผาสูง และในบริเวณนี้เองเป็นที่ตั้งของ “ถ้ำมรกต” แหล่งท่องเที่ยว Unseen ของทะเลตรังที่ขอบอกว่าไม่ควรพลาด
ทรายขาวน้ำใสบนเกาะมุก
       ถ้ำมรกตเป็นถ้ำกลางทะเล การเข้าชมภายในถ้ำต้องว่ายน้ำลอยคอเข้าไปในช่วงที่น้ำลงเท่านั้น หากมากันเป็นหมู่คณะหลายๆ คนก็จะใช้วิธีลอยคอเกาะไหล่คนข้างหน้าแล้วช่วยกันถีบเท้าลอยตัวเข้าไปภายในถ้ำ ระยะทางจากปากถ้ำไปจนถึงเวิ้งหาดทรายด้านในประมาณ 80 เมตร เหตุที่ได้ชื่อว่าถ้ำมรกตเพราะเมื่อมองจากในถ้ำไปยังปากทางเข้าแล้ว แสงจากภายนอกจะสะท้อนกับผืนน้ำกลายเป็นสีเขียวมรกตสดใส สวยจนบรรยายไม่ถูก อยากให้เข้าไปชมด้วยตัวเอง และเมื่อลอยคอพ้นปากถ้ำออกมาอีกด้านหนึ่งก็จะเห็นความงามของโค้งหาดทรายเล็กๆ ที่ล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงชัน ขอบอกว่าเป็นอันซีนที่ไม่ควรพลาดชมจริงๆ
นักท่องเที่ยวต่างชาติกับการพักผ่อนสบายๆ บนเกาะกระดาน
       ในทะเลตรังยังมีอีกหลายต่อหลายเกาะที่มีความสวยงามแตกต่างกันไป เช่น “เกาะเชือก-เกาะแหวน” ที่เป็นจุดดำน้ำชมปะการังอ่อนสีสวยงาม “เกาะลิบง” เกาะที่ใหญ่ที่สุดในทะเลตรัง เต็มไปด้วยหญ้าทะเลที่เป็นอาหารของพะยูน และสามารถพบพะยูน ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหายากที่เกาะนี้ด้วยเช่นกัน
      
       “เกาะตะเกียง” เกาะเล็กๆ ที่สามารถชมปะการังน้ำตื้นได้ที่หน้าหาด มีปะการังให้ชมหลายชนิด ส่วนบนเกาะยังมีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ ไม่ไกลกันนั้นคือ “เกาะเหลาเหลียง” เกาะแฝดที่ตั้งอยู่เคียงกัน คือเกาะเหลาเหลียงพี่และเกาะเหลาเหลียงน้อง มีหาดทรายขาวน้ำทะเลใส และมีแนวปะการังที่สวยงาม เหมาะจะดำน้ำทั้งตื้นและลึก และ “เกาะสุกร” เกาะขนาดใหญ่ที่แม้จะแปลว่าหมู แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม มีวิถีชีวิตแบบชาวประมงและเกษตรกรรมที่น่าสนใจ
เกาะไหง อีกหนึ่งเกาะยอดนิยมของนักท่องเที่ยว
       นอกจากนั้นเกาะที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวก็คือ “เกาะไหง” ที่จัดอยู่ในเขตจังหวัดกระบี่ แต่ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวในท้องทะเลตรังเพราะเดินทางจากตรังได้สะดวกกว่า เกาะไหงมีหาดทรายขาวยาวหลายกิโล น้ำทะเลใสและมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ทั้งเล่นน้ำชายหาด ดำน้ำดูปะการัง และพายเรือคายัคชมทิวทัศน์ เกาะไหงนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่มี “หินกวนอิม” แท่งหินสูงลักษณะคล้ายเจ้าแม่กวนอิมหันหน้าออกสู่ทะเล อยู่บริเวณปลายสุดของแหลมด้านทิศใต้
ชายหาดเล็กๆ ภายในถ้ำมรกต
       ไม่เพียงท้องทะเลเท่านั้นที่น่าสนใจ โดยอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์ของตรังอีกหนึ่งแห่งก็คือ “ถ้ำเลเขากอบ” ในอำเภอห้วยยอด ซึ่งการเข้าชมถ้ำจะต้องพายเรือลอดถ้ำเข้าไป ภายในถ้ำงดงามด้วยหินงอกหินย้อยตระการตา ในถ้ำภายในแบ่งเป็นหลายๆ ห้อง เช่น ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำรากไทร ถ้ำเจ้าสาว ฯลฯ แต่ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์อันน่าตื่นเต้นของถ้ำเลเขากอบก็คือช่วงพายเรือออกจากบริเวณที่เรียกว่าท้องมังกร เพราะเรือจะอยู่ห่างจากเพดานถ้ำแค่ไม่กี่ฟุต บางช่วงอยู่ห่างจากเพดานถ้ำเพียงแค่คืบ ทั้งคนพายและคนโดยสารเรือจึงต้องนอนราบไปกับเรือ กว่าจะออกจากถ้ำได้ก็ทั้งเสียวทั้งสนุกจนได้เป็นอันซีนไทยแลนด์เลยทีเดียว
หินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตาในถ้ำเลเขากอบ
       นอกจากนั้นเมืองตรังยังมีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ มีน้ำตกงดงามหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกไพรสวรรค์ น้ำตกสายรุ้ง น้ำตกลำปลอก น้ำตกช่องบรรพต น้ำตกโตนตก โดยน้ำตกที่ได้รับความนิยมที่สุดก็คือ น้ำตกโตนเต๊ะ ในอำเภอปะเหลียน ซึ่งเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ไหลผ่านแอ่งหินซอกหินตลอดสายเป็นสีขาว ด้านล่างเป็นแอ่งน้ำสามารถเล่นน้ำได้
หินเจ้าแม่กวนอิม เอกลักษณ์ของเกาะไหง